รศ.ดร.ชวลิต จีนอนันต์ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการ สถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร (SIIT) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เปิดเผยว่า โลกของธุรกิจนั้นมีการปรับตัวและเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของเทคโนโลยี ระบบการตลาด หรือแนวโน้มความต้องการใหม่ๆ ในขณะที่ระบบการศึกษาเองก็ได้รับอิทธิพลจากการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายหลังสถานการณ์โควิด-19 ที่ทำให้รูปแบบการเรียนการสอน การหาความรู้ของนักเรียน นักศึกษา ล้วนมีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น จึงเป็นความสำคัญที่ทำให้สถาบันการศึกษาจำเป็นจะต้องมีการปรับตัวให้เท่าทันกับความเปลี่ยนแปลงต่างๆ
รศ.ดร.ชวลิต กล่าวว่า ในส่วนของ SIIT ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาด้านวิศวกรรมและด้านการจัดการอินเตอร์ ที่มุ่งเน้นในเรื่องของเทคโนโลยี จึงต้องมีการพัฒนาหลักสูตรที่สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของโลก และความต้องการของตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้มีการปรับปรุงหลักสูตรใหม่ในชื่อ การวิเคราะห์ธุรกิจและโซ่อุปทาน หรือ Business and Supply Chain Analytics (BA) พร้อมปรับเนื้อหาใหม่ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันมากยิ่งขึ้น
![](https://adminadmissions.siit.tu.ac.th/wp-content/uploads/2023/06/317441452_501415552018185_3089387445982751529_n-1024x684.jpeg)
สำหรับหลักสูตร BA ที่ปรับปรุงใหม่นี้ จะเป็นการเรียนการสอนที่มุ่งให้เกิดการมองภาพธุรกิจตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทาน ช่วยให้เกิดทักษะการคิดวิเคราะห์ที่นำไปสู่การวางกลยุทธ์และการตัดสินใจ บนพื้นฐานของศาสตร์การใช้ข้อมูล (Data Science) ตลอดจนเทคนิคด้านข้อมูลต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการวิเคราะห์ทางสถิติ การแปลงข้อมูลเป็นภาพ (Data Visualization) ไปจนถึงการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เครื่องมือการประมวลผล (Machine Learning) เป็นต้น ซึ่งเป็นศาสตร์ที่สำคัญและจำเป็นมากยิ่งขึ้นสำหรับโลกธุรกิจในปัจจุบัน
“การออกแบบหลักสูตรของ SIIT เราได้มีความร่วมมือกับภาคธุรกิจอุตสาหกรรมทั้งในและต่างประเทศ เพื่อวิเคราะห์ความต้องการของภาคเอกชนต่าง ๆ ว่ากำลังต้องการบุคลากรที่มีทักษะ มีความรู้ความสามารถด้านใดบ้าง เพื่อนำกลับมาออกแบบและปรับปรุงหลักสูตรของสถาบัน หากวิชาใดที่เนื้อหาไม่ตอบโจทย์ในปัจจุบันเราก็จะถอดออก ส่วนเนื้อหาวิชาใดที่เริ่มเป็นเทรนด์ของตลาดโลก อย่างการวิเคราะห์ธุรกิจและโซ่อุปทานนี้ เราก็นำเข้ามาปรับให้เหมาะสมเป็นหลักสูตร BA ที่เพิ่งปรับปรุงใหม่” รศ.ดร.ชวลิต กล่าว
![](https://adminadmissions.siit.tu.ac.th/wp-content/uploads/2023/06/317435995_501416108684796_8923236409059541980_n-1024x684.jpeg)
ขณะเดียวกัน ทาง SIIT ยังได้มีการออกแบบการเรียนการสอนในลักษณะ Active Learning ภายใต้กิจกรรมเวิร์คช็อป “Business Game with ERPSim Workshop” ที่ให้นักเรียนนักศึกษาได้ฝึกฝนทักษะผ่านการเล่น “เกมจำลองธุรกิจ” ที่แต่ละกลุ่มจะต้องบริหารจัดการธุรกิจแบบเสมือนจริง โดยแบ่งหน้าที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายการผลิต ฝ่ายการขาย ฝ่ายบริหาร ฯลฯ พร้อมทดลองใช้ซอฟท์แวร์จริงที่ภาคธุรกิจระดับโลกใช้ เช่น SAP, Microsoft Power BI และร่วมเรียนรู้ถึงการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นภายในองค์กรด้วย
รศ.ดร.ชวลิต กล่าวว่า เวิร์คช็อปการเล่นเกมลักษณะนี้ คือการเปลี่ยนวิธีการเรียนการสอนจากการฟังบรรยาย (Lecture-based Learning) ให้เป็นการเรียนแบบสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry-based Learning) ที่กระตุ้นให้นักเรียนนักศึกษาได้เจอกับปัญหา และค่อยๆ เกิดกระบวนการเรียนรู้ พร้อมค้นคว้าถึงวิธีการแก้ไขปัญหาด้วยตนเอง ซึ่งเป็นการฝึกฝนทักษะทั้ง “4C” ที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 ได้แก่ 1. Communication การสื่อสาร 2. Collaboration การร่วมมือกันเป็นทีม 3. Creativity ความคิดสร้างสรรค์ 4. Critical Thinking การคิดวิเคราะห์
“เราใช้กิจกรรมเวิร์คช็อปแบบนี้ประกอบการเรียนการสอนให้กับนักศึกษามานาน 3-4 ปี โดยช่วงโควิด ที่ผ่านมาเราก็มีการจัดผ่านออนไลน์ และเปิดให้นักเรียนจากทั่วประเทศที่สนใจเข้ามาร่วมเล่นได้ ซึ่งได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างสูง มาในปีนี้ที่เราสามารถจัดกิจกรรมออนไซต์ได้มากขึ้น จึงได้ต่อยอดเวิร์คช็อปนี้ให้น้องๆ ม.ปลาย เข้าถึงได้เพิ่มมากขึ้น โดยจัดกิจกรรมเพื่อให้นักเรียนเข้าร่วมเล่นในงาน SIIT Open House 2022 ที่ผ่านมา และยังได้มีความร่วมมือไปจัดกิจกรรมให้กับนักเรียนตามที่ต่างๆ เช่น โรงเรียนสาธิตสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ และโรงเรียนเซนต์คาเบรียล” รศ.ดร.ชวลิต กล่าว
รศ.ดร.ชวลิต กล่าวอีกว่า วัตถุประสงค์ของกิจกรรมเวิร์คช็อปดังกล่าว นอกจากที่ตั้งใจจะจุดประกายให้นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายทั่วประเทศ ได้มีโอกาสเรียนรู้ทักษะของโลกธุรกิจในอนาคต รวมถึงรู้จักกับ SIIT มากขึ้นแล้ว ยังเป็นการกระตุ้นให้ครู อาจารย์ ในโรงเรียนต่างๆ ได้มองเห็นภาพการเรียนการสอนรูปแบบอื่นๆ ที่สามารถนำไปปรับใช้ในการออกแบบหลักสูตรที่สอดคล้องกับปัจจุบันมากยิ่งขึ้น แทนที่จะมุ่งเน้นเฉพาะการเรียนภาคทฤษฎี ที่นักเรียนอาจจดจำได้น้อย มาเป็นกิจกรรมที่ให้นักเรียนได้ลงมือทำ ตัดสินใจ และเรียนรู้ด้วยตนเอง ที่พบว่าจะสามารถสร้างการจดจำได้สูงและยาวนานกว่า
ด้าน ศ.ดร.พฤทธา ณ นคร ผู้อำนวยการสถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร (SIIT) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า โลกของธุรกิจ เทคโนโลยี และศาสตร์ของวิศวกรรมการจัดการ เป็นองค์ความรู้ที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ดังนั้นที่ผ่านมา SIIT จึงได้มีการปรับและพัฒนาหลักสูตรอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของภาคธุรกิจและสังคม
![](https://adminadmissions.siit.tu.ac.th/wp-content/uploads/2023/06/317389360_501415848684822_2005762155983776245_n-1024x684.jpeg)
ศ.ดร.พฤทธา กล่าวต่อไปว่า ขณะเดียวกันเทรนด์ของการศึกษาในช่วงหลังโควิด-19 ก็ได้เปลี่ยนแปลงไปมาก โดยการเรียนรู้ของนักเรียนนักศึกษามีการปรับเปลี่ยนไปสู่รูปแบบที่มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นโจทย์ให้กับสถาบันอุดมศึกษาต่างๆ ที่ต้องปรับการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้เรียน โดยในส่วนของ SIIT ได้มีการลงทุนปีละกว่า 15 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงห้องเรียนเดิมให้มีความเหมาะสมและสามารถรองรับวิธีการเรียนรู้แบบใหม่ ๆ ที่มีประสิทธิภาพสูงได้ เช่น จากที่เป็นลักษณะนั่งจดเลคเชอร์ ก็ปรับให้สอดรับกับการเรียนแบบ Active Learning ที่สามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้มากขึ้น รวมทั้งรองรับรูปแบบการเรียนการสอนที่เป็นรูปแบบออนไลน์ และไฮบริดที่ผสมผสานการเรียนการสอน ทั้งรูปแบบออนไซต์และออนไลน์ได้